Untitled Document

ผู้เขียน หัวข้อ: รบกวนสอบถามเกี่ยวกับปิ็กการ์ด ปิ็กกีตาร์ เเละสายกีตาร์ครับ  (อ่าน 4238 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

newsfolder

  • member
  • ***
  • กระทู้: 84
  • เพศ: ชาย
  • ดนตรีคือหัวใจ
สวัสดีพี่ๆน้าๆทุกท่านครับ พอดีมีเรื่องสงสัยเล็กน้อยครับ
1.หากไม่ติดปิ็กการ์ดจะมีปัญหาอะไรตามมาบ้างครับ
2.ปิ็กการ์ดที่นิยมใช้กันมีลักษณะเเบบใด ราคามันประมาณเท่าใด
3.ปิ็กที่ใช้ดีดกีตาร์มีกี่ประเภทเเล้วไอ้ประเภทที่ทนๆมันมีเเบบไหนบ้างครับ
4.สายกีตาร์มีเเตกต่างกันกี่ประเภท เเล้วมียี่ห้อไหนที่นิยมใช้บ้างครับ
ขอโทษนะครับที่ผมสงสัยมากเกินไป ซึ่งผมเป็นคนค่อนข้างอยากรู้ครับถ้าไม่เข้าใจหรือไม่รู้มันจะตะขิดตะขวงใจครับ
เรียนมาเพื่อรบกวนขอความรู้ครับขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ
ผิดถูกประการใดขออภัยนะครับ

Ignite

  • member
  • ***
  • กระทู้: 206
  • เพศ: ชาย
  • ดูโง่เเต่ก้อเท่
รอผู้รู้อยู่ครับ
ระบบคือหัวใจ

Nu'Acoustic

  • member
  • ***
  • กระทู้: 176
  • เพศ: ชาย
  • [^_^"]
    • www.acousticthai.net
เอาเท่าที่ตอบได้นะครับ

1. ถ้าไม่ติดปิ๊กการ์ด ปัญหาที่ตามมาคือรอยปิ๊กกีต้าร์ที่เราดีด มีสลักลบนเนื้อไม้บริเวณที่ดีดบ่อยๆ ถ้ากลัวกีต้าร์เป็นรอยก็หาปิ๊กการ์ดมาติดดีกว่าครับ
2. แล้วแต่ชอบเลยรับลองดูราคาและรูปจากร้านน้า ตะวันก็ได้ครับ ตามนี้ http://www.acousticthai.net/webboard/index.php?topic=26.0
3.ปิ๊กมีทั้งแบบใส่นิ้ว ไว้สำหรับเล่นแนว ฟิงเกอร์ และก็แบบ ปิ๊กดีดธรรมดา แบบทน ๆ นี่ แล้วแต่ชอบและความถนัดเลยครับ ส่วนใหญ่มันก็ทนอยู่แล้วครับ
4.สายมีหลายประเภทแต่ง่ายๆ ก็สายเคลือบ กับสายไม่เคลือบ  ระยะการเวลาใช้งานก็ย่อมแตกต่างกันไปตามราคา

รอน้าท่านอื่นมาเพิ่มเติมครับ
*~ หลงรัก Acoustic Guitar ~*

Ignite

  • member
  • ***
  • กระทู้: 206
  • เพศ: ชาย
  • ดูโง่เเต่ก้อเท่
ระบบคือหัวใจ

nco4433

  • member
  • ***
  • กระทู้: 592
เอาเท่าที่ตอบได้นะครับ

1. ถ้าไม่ติดปิ๊กการ์ด ปัญหาที่ตามมาคือรอยปิ๊กกีต้าร์ที่เราดีด มีสลักลบนเนื้อไม้บริเวณที่ดีดบ่อยๆ ถ้ากลัวกีต้าร์เป็นรอยก็หาปิ๊กการ์ดมาติดดีกว่าครับ
2. แล้วแต่ชอบเลยรับลองดูราคาและรูปจากร้านน้า ตะวันก็ได้ครับ ตามนี้ http://www.acousticthai.net/webboard/index.php?topic=26.0
3.ปิ๊กมีทั้งแบบใส่นิ้ว ไว้สำหรับเล่นแนว ฟิงเกอร์ และก็แบบ ปิ๊กดีดธรรมดา แบบทน ๆ นี่ แล้วแต่ชอบและความถนัดเลยครับ ส่วนใหญ่มันก็ทนอยู่แล้วครับ
4.สายมีหลายประเภทแต่ง่ายๆ ก็สายเคลือบ กับสายไม่เคลือบ  ระยะการเวลาใช้งานก็ย่อมแตกต่างกันไปตามราคา

รอน้าท่านอื่นมาเพิ่มเติมครับ

เห็นด้วยอย่างแรงเลยครับ

newsfolder

  • member
  • ***
  • กระทู้: 84
  • เพศ: ชาย
  • ดนตรีคือหัวใจ
ขอบคุณมากครับสำหรับการเเนะนำ

Je Veux Dire

  • member
  • ***
  • กระทู้: 16
  • เพศ: ชาย
ไม่เคยใช้ปิกพังเลยมีแต่หายก่อน

แนะนำสายเคลือบของElixer
แต่ถ้าไม่เคลือบก็D'addario ไม่ก็Ernie ball

ผมชอบสายเบอร์ต่ำครับ9-10สายนิ่มเสียงพุ่งดี

nhoy

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,179
ไม่เคยใช้ปิกพังเลยมีแต่หายก่อน

แนะนำสายเคลือบของElixer
แต่ถ้าไม่เคลือบก็D'addario ไม่ก็Ernie ball

ผมชอบสายเบอร์ต่ำครับ9-10สายนิ่มเสียงพุ่งดี
สายกีต้าร์โปร่ง ถ้าจะให้ได้สำเนียงที่ใช้ได้และต้องการเบอร์เล็กๆ นั้น ต่ำสุดแนะนำให้ใช้แค่เบอร์ 10 ครับ (โดยปกติแล้วมักจะใช้เบอร์ 11 และ 12)  แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของแต่ละคนไปครับ

newsfolder

  • member
  • ***
  • กระทู้: 84
  • เพศ: ชาย
  • ดนตรีคือหัวใจ
ขอบคุณมากครับได้กีตาร์มาเเล้วจะรีบไปเปลี่ยนด่วนเลยครับ

Arkara

  • member
  • ***
  • กระทู้: 161
ข้อ 3 เรื่องปิ๊ก
อันนี้ถ้าไม่ค่อยรู้ แนะนำว่าให้เลือกที่ยี่ห้อที่ไว้ใจได้หน่อยครับ เช่น Dunlop Fender gibson ฯลฯ เทคนิคส่วนตัวผมคือเอามาคลึงๆ บี้ๆ ทดสอบความแข็ง และก็ชอบเนื้อของปิ๊กนั้นหรือไม่ ถ้าชอบติดมือแล้วก็จะซื้อเลย

 และข้อ 4 เรื่องสาย
สายกีต้าร์โปร่งจะมีเนื้ออยู่ 2 แบบ คือ Bronze และ Phorspher Bronze (เท่าที่เห็นจะบอกไว้ที่เพคกิ้งว่ามีอัตราส่วนเท่าไหร่ บางทีก็ %) อัตราส่วนผสมของ P จะให้สายคงทนขึ้นเสียงที่ได้ก็จะมีเนื้อเสียงนวลๆ อุ่นๆ เหมาะกับฟิงเกอร์สไตล์แต่ส่วนหายไปคือความคมใส ...กลับกันถ้าคนชอบเสียงคมๆจิ๊ดๆตีคอร์ดมันๆ ก็แนะนำ Bronze ....ส่วนสายเคลือบคือเทคโนโลยีที่ำำทำให้สายมีอายุยาวนานขึ้น สนิมกินช้าลง ซึ่งสายเคลือบก็ยังมีให้เลือกที่เป็นแบบ Bronze หรือ Phorspher Bronze อีกที ... ส่วนเอกลักษณ์แต่ล่ะยี่ห้อก็ต้องลองไปเรื่อยๆครับ เสียงไม่เหมือนกันซักยี่ห้อ แต่ที่ดังๆเห็นน้าๆใช้กันประจำก็คือ D'addario และ Elixer

TOM1869

  • member
  • ***
  • กระทู้: 19,248
สวัสดีพี่ๆน้าๆทุกท่านครับ พอดีมีเรื่องสงสัยเล็กน้อยครับ
1.หากไม่ติดปิ็กการ์ดจะมีปัญหาอะไรตามมาบ้างครับ
2.ปิ็กการ์ดที่นิยมใช้กันมีลักษณะเเบบใด ราคามันประมาณเท่าใด
3.ปิ็กที่ใช้ดีดกีตาร์มีกี่ประเภทเเล้วไอ้ประเภทที่ทนๆมันมีเเบบไหนบ้างครับ
4.สายกีตาร์มีเเตกต่างกันกี่ประเภท เเล้วมียี่ห้อไหนที่นิยมใช้บ้างครับ


หลายข้อ มีน้าๆ ช่ายตอบไปแล้ว
1. ไม่ติด pickgard ก็จะเกิด รอยได้ แต่กีต้าร์ที่ไม่ติด Picgard ไม้หน้าจะทำงานได้ดีกว่ากีต้าร์ที่ติด pickgard  กีต้าร์ผม มีบางตัวที่ไม่ติด  pickgard ครับ
2. ติดต่อน้า Tawanv เลือกได้ตามชอบครับ
3. มี Pick สวมนิ้ว และ pick สามเหลี่ยม ผมใช้แต่ pick สวมนิ้ว ไม่ใช้ pick สามเหลี่ยม ครับ  ส่วนใหญ่ ทนทั้งนั้น แต่มักจะหายซะก่อน
    ผมจะไม่ใช้ pick สามเหลี่ยมกับกีต้าร์ ครับ  แต่จะไว้เล็บแทน
4. อันนี้แล้วแต่ชอบ ผมชอบสายเคลือบ ทนและประหยัดดี  ของ dad exp หรือ elixir ครับ
Line id: 081-8718003

nhoy

  • member
  • ***
  • กระทู้: 3,179
สวัสดีพี่ๆน้าๆทุกท่านครับ พอดีมีเรื่องสงสัยเล็กน้อยครับ
1.หากไม่ติดปิ็กการ์ดจะมีปัญหาอะไรตามมาบ้างครับ
2.ปิ็กการ์ดที่นิยมใช้กันมีลักษณะเเบบใด ราคามันประมาณเท่าใด
3.ปิ็กที่ใช้ดีดกีตาร์มีกี่ประเภทเเล้วไอ้ประเภทที่ทนๆมันมีเเบบไหนบ้างครับ
4.สายกีตาร์มีเเตกต่างกันกี่ประเภท เเล้วมียี่ห้อไหนที่นิยมใช้บ้างครับ
ขอโทษนะครับที่ผมสงสัยมากเกินไป ซึ่งผมเป็นคนค่อนข้างอยากรู้ครับถ้าไม่เข้าใจหรือไม่รู้มันจะตะขิดตะขวงใจครับ
เรียนมาเพื่อรบกวนขอความรู้ครับขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ
ผิดถูกประการใดขออภัยนะครับ
ข้อ 1. แล้วแต่แนวการเล่นและการระวังรักษาของแต่ละคนครับ   ข้อ 2. ลองติดต่อกับน้าตะวันดูครับ   ข้อ 3. ปิ๊กแบน กับ ทัมบ์ปิ๊กครับ   ข้อ 4. สายกีต้าร์แบ่งออกเป็นสายเอ็นกับสายเหล็ก  สายเอ็นมักจะใช้กับกีต้าร์คลาสสิค   แต่ในที่นี้จะพูดถึงเฉพาะสายเหล็กนะครับ สายเหล็กมีทั้งสายธรรมดาและสายเคลือบ  ไม่มีสายเคลือบใดที่จะให้เสียงดีกว่าสายธรรมดา อย่างเก่งก็พอๆ กันครับ  แต่สายเคลือบนั้นคงทนกว่า ให้สัมผัสการเล่นที่ลื่น และดูแลรักษาง่ายกว่าเพียงใช้ผ้าสะอาดเช็ดหลังการเล่นทุกครั้งก็เพียงพอแล้ว  สายเคลือบแพงกว่าสายธรรมดาแต่ก็คุ้มค่าครับ  นอกจากนี้สายเหล็กยังผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกันออกไป แต่แบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 2 ชนิด คือ สาย 80/20 บรอนซ์  ซึ่งมักติดมากับกีต้าร์จากโรงงาน สายประเภทนี้ให้โทนเสียงที่พุ่งและชัด สดใส ออกโทนแหลม  โดยจะเห็นว่านักกีต้าร์ที่เล่นแนวฟิงเกอร์สไตล์มักจะชอบสายประเภทนี้    ส่วนอีกประเภทหนึ่งคือ สาย Phosphor Bronze สายชนิดนี้กล่าวกันว่ามีความคงทนกว่า ให้สัมผัสเสียงที่สดใสแต่อุ่นกว่า มีความบาลานซ์กลมกลืน ให้ความพอดีกันระหว่างโทนเสียงสูงและต่ำ   ถ้าจะให้เลือกก็สุดแล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละท่านครับ    สำหรับเรื่องยี่ห้อนั้น ถ้าเป็นสายธรรมดาแล้วผมแนะนำ สาย D'ad รุ่น ej ทั้งหลาย  แต่ถ้าเป็นสายเคลือบ ผมชอบ Elixir Nanoweb Phosphor Bronze หรือไม่ก็ EXP ของ D'ad ครับ